แมงกะพรุน สัตว์มีพิษประจำท้องทะเล รุนแรง อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้

                “ทะเล” สถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ ยิ่งหน้าร้อนแล้ว ผู้คนยิ่งแห่ไปเที่ยวทะเลกันเป็นจำนวนมาก ไปเล่นน้ำคลายร้อน ทะเลในหลาย ๆ แห่งเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว และอีกหลายแห่งก็มีนักท่องเที่ยวบางตา สาเหตุหนึ่งมาจากความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ และปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งของทะเลคือ “แมงกะพรุน” ที่มีจำนวนมากขึ้นในท้องทะเล

                แมงกะพรุนเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ตัวนิ่มใส รูปร่างคล้ายร่มหรือกระดิ่งคว่ำ มักมีเข็มพิษไว้ป้องกันตัว พบมากในช่วงหน้าฝน ทั้งในทะเลลึกและตื้น แมงกะพรุนถูกแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ แมงกะพรุนกล่อง และแมงกะพรุนไฟ

แมงกะพรุนกล่อง มีลักษณะคล้ายแก้วคว่ำ มี 2 ชนิด แบบมีหลายหนวด แตกแขนงออกมาจากโคนหนวด เมื่อสัมผัสแล้วจะมีอาการปวดรุนแรง 4 – 12 ชั่วโมง มีรอยไหม้ ผิวหนังตาย และอาจจะหมดสติหรือเสียชีวิตได้ แบบมีหนวดเดี่ยว แตกแขนงออกมาจากโคนหนวด เมื่อสัมผัสแล้วจะมีอาการรุนแรงภายใน 5 – 40 นาที มีอาการปวดหัว ปวดหลัง ปวดท้อง คลื่นไส้ เป็นต้น

แมงกะพรุนไฟ รูปร่างคล้ายร่ม เมื่อสัมผัสจะมีอาการปวดแสบปวดร้อน แสบคัน มีรอยไหม้ อาจจะมีไข้หรือช็อก จนหมดสติ รวมถึงอาจเสียชีวิตได้

สาเหตุที่แมงกะพรุนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

                น้ำเสียและน้ำจากการทำเกษตรที่มีปุยเคมี มีธาตุอาหารสูง เป็นอาหารชั้นดีของแมงกะพรุน ทำให้แมงกะพรุนขยายพันธุ์ไปได้อย่างรวดเร็ว

ภาวะโลกร้อนทำให้ระบบนิเวศน์เปลี่ยนไปมาก ทำให้กระบวนการในทะเลเปลี่ยนแปลงไป ทำให้พบแมงกะพรุนเพิ่มขึ้นจำนวนมาก

เต่าทะเลมีน้ำจำนวนน้อยลง จากการจับไปทำอาหาร ทำเครื่องประดับ ร่วมถึงการตายจากปัญหาขยะใต้ท้องทะเล ทำให้ท้องทะเลไม่มีผู้พิทักษ์ คอยกำจัดแมลงกะพรุนที่มีพิษมีภัยต่อผู้เล่นน้ำทะเล

วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อสัมผัสแมงกะพรุน

ถ้าหากถูกแมงกะพรุนต่อยในบริเวณที่สามารถป้องกันพิษไหลได้ เช่น แขน หรือ ขา ควรหาผ้ามัดเหนือแผลเพื่อป้องกันพิษไหล และควรล้างแผลด้วยน้ำส้มสายชู และหากสังเกตเห็นหนวดของแมงกะพรุนข้างอยู่ให้ราดด้วยน้ำส้มสายชูไปรอบ ๆ ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีแล้วค่อยดึงหนวดออก ในกรณีที่ไม่มีน้ำส้มสายชูสามารถล้างด้วยน้ำทะเลแทนได้ และวิธีที่สามารถแก้ได้อีกวิธีหนึ่งคือ นำหญ้าทะเลที่สะอาดมาขยี้กับน้ำส้มสายชูและราดบริเวณที่ถูกต่อย แต่หากไม่แน่ใจเกี่ยวกับหญ้าทะเลสะอาดหรือไม่ และหากอาการไม่ดีขึ้น ควรนำส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลให้คุณหมอหรือผู้เชี่ยวชาญดูแล เนื่องจากพิษของแมงกะพรุนมีความรุนแรงอาจถึงตายได้ หากดูแลไม่ดีหรือดูแลผิดวิธี

สิ่งที่ห้ามทำโดยเด็ดขาดคือ ห้ามใช้น้ำจืดล้างแผลโดยเด็ดขาด ห้ามถูบีบหรือนวดบริเวณที่ถูต่อยหรือบริเวณโดยรอบ ห้ามประคบร้อนและประคบเย็นโดยเด็ดขาด เนื่องจากทั้ง 3 วิธีจะทำให้พิษของแมงกะพรุนกระจายไปยังบริเวณอื่น ๆ สามารถส่งผลร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

ธรรมชาติเปลี่ยนไปสาเหตุหลักมาคนที่เข้าไปรบกวนระบบธรรมชาติ เช่น เดิมเต่าทะเลผู้พิทักษ์ทะเลให้ปลอดแมงกะพรุน แต่เต่าทะเลถูกทำล้ายด้วยน้ำมือของมนุษย์ที่จับไปทำอาหารหรือเครื่องประดับ ผลกระทบทางตรงที่เกิดกับมนุษย์คือแมงกะพรุนที่มีมากขึ้นทำให้ทะเลที่เคยน่าเล่น น่ามอง มีเสน่ห์น่าหลงใหล บัดนี้ถูกเปลี่ยนไปเป็นน่ากลัว และไม่ปลอดภัย เราควรหันมาดูแลรักษาธรรมชาติให้มากขึ้น เพื่อความสมบูรณ์ของธรรมชาติจะได้กลับมาอีกครั้ง