เหลือเชื่อ ! ฟุตบอล ‘ทีมชาติไทย’ แพ้แม้ ‘อินเดีย’

เป็นเรื่องที่น่าตกใจมาก ที่ประเทศซึ่งตีคริกเก็ตเป็นกีฬาหลักอย่าง ‘อินเดีย’ จะบุกมาจัดการ ‘ทีมชาติไทย’ ได้ถึงบ้านในรายการ King Cup 2019 ยิ่งสะท้อนให้เห็นการเล่นของศึกช้างศึกไทยในยุคนี้ และยิ่งถ้านับรวมความพ่ายแพ้ต่ออินเดีย 4-1 ก่อนหน้านี้ในศึก Asian Cup รวมถึงการแพ้คู่แข่งตลอดกาลอย่างเวียดนาม แบบเละคาบ้านก็ยิ่งกลายมาเป็นเครื่องตอกย้ำความย่ำแย่ของทีมชาติไทย ให้บาดลึกเข้าไปอีก คำถามสำคัญคือ อะไรที่พาทีมไทยมาถึงจุดนี้ได้ ?

รับไม่ได้

ย้อนไปเมื่อ 2 ปีก่อน ที่ทีมชาติไทย สามารถดำเนินไปได้ดีในยุคของ ‘โค้ช ซิโก้ เกียรติศักดิ์’ ที่เขาสามารถพาทีมผ่านเข้าไปเล่นในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือกรอบ 12 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ แต่ก็มาพ่ายแพ้ให้กับซาอุดิอาระเบียถึง 3-0 อีกทั้งยังบุกไปแพ้ญี่ปุ่น 4-0 ทำให้ ‘พล.ต.อ.สมยศ’ นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยรับไม่ได้ ทำให้โค้ชซิโก้ประกาศสละตำแหน่ง และจากจุดนี้นี่เองที่ได้กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของการหลงทางครั้งใหญ่ของวงการฟุตบอลไทย และเกิดการพ่ายแพ้อย่างที่เห็น

เลือกโค้ชแบบไม่ใส่ใจ

เมื่อตำแหน่งว่าง สมาคมเลือกใช้วิธีเปิดรับสมัครแบบไร้การวางแผน ทำให้กุนซือว่างงานจากทั่วโลก เดินทางมาสมัครกันมาก แต่คนที่ไปโดนใจประธานฝ่าย คือ ‘มิโลวาน ราเยวัช’ กุนซือชาวเซอร์เบียมีดีกรี เพราะเคยพา Ghana เข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ในการแข่งขันฟุตบอลโลก

‘มิโลวาน ราเยวัช’ ไม่เป็นอย่างที่คาดหวัง

‘มิโลวาน ราเยวัช’ สั่งให้นักเตะทั้งทีมลงไปกองแถวหน้าประตูตัวเอง แต่สุดท้ายก็แพ้แม้ว่าจะเสียประตูไม่ค่อยมากก็ตาม ซึ่งต่อมา ราเยวัช ได้ต่อสัญญาทำให้เขารับเงินก้อนใหญ่ตอนโดนไล่ออก สำหรับสาเหตุของการออกของ ราเยวัช คือ การทำให้ทีมไทยตกรอบตัดเชือกศึก AFF Suzuki Cup 2018 โดน อินเดีย ถล่มอย่างยับเยิน 4-1 ทำให้เขาโดนปลดกลางอากาศในทันที

ยังไม่เห็นความหวังใหม่

การมารับงานอย่างกะทันหันของ ‘โค้ชโต่ย ศิริศักดิ์’ ทำให้ทีมชาติไทยยังดี ๆ ทรุด ๆ ถึงแม้เขาจะสามารถพาทีมเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายใน Asian Cup หากแต่ความพ่ายแพ้อย่างน่าอดสู แก่ทั้ง อินเดีย และ เวียดนาม ก็ทำให้อนาคตของทีมไทยดูมืดมนลงไปกว่าเดิม นอกจากนี้อีกปัจจัยหนึ่ง คือ การพัฒนาตัวเองอย่างเต็มฝีเท้าของ เวียดนาม คู่แข่งเพื่อนบ้านซึ่งสามารถทำผลงานได้ดีในเวทีระดับ ASIA ราวกับดาวที่กำลังจะระเบิดแสง ส่งผลให้แน่นอนว่า หลังจากนี้จะทำให้ ทีมชาติไทยต้องประสบพบเจอกับความกดดันอย่างแน่นอน

ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าทีมชาติไทยกำลังเจอกับปัญหาหนัก ซึ่งก็ยังไม่แน่ว่าจะสามารถพลิกเกมกลับขึ้นมาคว้าชัยชนะได้อีกหรือไม่ อย่างไรก็ต้องจับตามองกันต่อไป โดยเชื่อว่าถ้าทุกคนมุ่งมั่นและตั้งใจสู้กับการแข่งขันฟุตบอลจริง ๆ ก็ยังพอมีหวังอย่างแน่นอน

นักแตะตะกร้อทีมชาติไทย ไล่ต้อนคู่แข่งกวาดแชมป์ ‘ตะกร้อ Asian Championships 2019’

กองทัพนักตะกร้อ ทีมชาติไทยทั้งชาย – หญิง เดินหน้าเต็มกำลังกวาดแชมป์ ‘ตะกร้อ Asian Championships 2019’ ณ เมือง Kunming สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยนักกีฬาชาย สามารถปราบคู่แข่งตลอดกาลอย่างทัพมาเลเซียไปได้ ทางด้านทีมหญิงแกร่ง ก็โค่นเมียนมาร์ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งก็เป็นการแข่งขันที่ดุเดือดมากทีเดียว

กองทัพตะกร้อไทยเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมคว้าชัยชนะมาฝากประเทศ

การแข่งขันเซปักตะกร้อ ในรายการ ‘Asian Championships 2019’ วันที่ 10-14 มิถุนายน 2019 โดยสมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย ส่งนักกีฬาร่วมศึกทั้งชายและหญิง

โดยวันที่ 12 มิถุนายน การแข่งขันในประเภททีมเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ เริ่มจากผลงานของฝ่ายหญิง สำหรับรอบชิงชนะเลิศพวกเธอได้เข้าไปปะทะกับ เมียนมาร์ รูปเกมตะกร้อของสาวไทยเป็นฝ่ายที่สามารถเล่นได้อย่างแพรวพราวกว่า โดยเอาชนะ เมียนมาร์ ไปอย่างขาดลอย ด้วยคะแนน 2-0, จึงสามารถคว้าชัยชนะมาได้อย่างสวยงาม ส่วนทางด้านฝ่ายชาย พวกเขาผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปพบกับ มาเลเซีย คู่ปรับตลอดกาล โดยทีมตะกร้อไทยก็เล่นกันอย่างเต็มที่อย่างเคย โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม เอาชนะไปอย่างสบาย ๆ ด้วยคะแนน 2-0 เซต, โดยคะแนนในแต่ละเซตที่เอาชนะได้คือ 21-10 และ 21-13 ซึ่งคว้าตำแหน่งแชมป์มาครองได้เช่นเดียวกัน ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่านักกีฬาตะกร้อทั้งหญิงและชายต่างก็ทำอย่างเต็มที่มาก

ตะกร้อหญิงทีมชาติไทย หญิงแกร่งแห่งแดนสยาม

ตะกร้อหญิงทีมชาติไทย สร้างความภูมิใจอันเปี่ยมล้นให้แก่แดนสยาม เพราะสามารถสร้างผลงานไปได้ถึง 100% กวาดแชมป์ ศึก ตะกร้อ Asian Championships 2019 ณ เมือง Kunming ทางด้านทีมชายคว้าแชมป์ทีมเดี่ยวไปได้เช่นเดียวกัน ส่วนตะกร้อคู่สุดท้ายอยู่ในอันดับ 5 หลังตกรอบแรก การแข่งขันเซปัก ‘ตะกร้อ Asian Championships 2019’ ‘Chana Open’ ครั้งที่ 2 ในวันศุกร์ ที่ 14 มิถุนายน 2019 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการแข่งขัน สำหรับวันสุดท้าย ของการจับตามองอยู่ที่ตะกร้อคู่หญิง รอบชิงชนะเลิศ โดยรายชื่อของนักตะกร้อหญิงที่รวมพลังกันคว้าแชมป์ทีมเดี่ยวหญิง ได้แก่…

  • สมฤดี ปรือปรัก
  • มัสยา ดวงศรี
  • ศศิวิมล จันทสิทธิ์

โดยผลการแข่งขัน ทีมตะกร้อคู่สาวไทย สามารถไล่ต้อนเอาชนะเมียนมาไปได้อย่างสบาย ๆ 2-0 เซต, โดยมีคะแนนในแต่ละเซตคือ 21-7, 21-8 จึงได้แชมป์ไปครองอีกเช่นเคย ซึ่งก็สรุปได้ว่า ‘Asian Championships 2019’ ทีมตะกร้อสาวไทยสามารถคว้าแชมป์ได้ทั้งหมด

ทางด้านทีมตะกร้อคู่ไทยที่พลิกล็อค พ่ายให้แก่เวียดนาม 1-2 เซต จนทำให้ตกรอบแรกไป และพ่ายให้แก่ฟิลิปปินส์ 0-2 เซต จนกระทั่งทำให้หล่นลงไปเล่นใน Division 2 หากแต่สุดท้ายก็สามารถเอาชนะอินเดียมาได้ รวมทั้งชนะอิหร่านในรอบชิงชนะเลิศ จึงทำให้จบ Tournament นี้ด้วยอันดับที่ 5 หากแต่ในประเภททีมเดี่ยวชายก็ยังคว้าแชมป์ได้ อย่างไรก็ตามการแข่งขันในครั้งนี้ก็สร้างความน่ายินดีให้กับไทยได้เป็นอย่างมากและคาดว่าในการแข่งขันครั้งต่อ ๆ ไป ทีมตะกร้อทั้งชายหญิงของไทยเราก็จะสามารถคว้าชัยชนะมาได้อีกแน่นอน

คริสเตียโน โรนัลโด นักเตะแข้งทอง จอมทำลายสถิติ

เมื่อพูดถึงข่าวคราวในวงการฟุตบอลต่างประเทศ นักเตะที่ฮ็อตที่สุดจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากนักเตะแข้งทองที่ได้ชื่อว่าเป็นนักกีฬาที่ทำรายได้ได้มากที่สุดในขณะนี้ นั่นคือนักเตะหนุ่มสุดหล่อ ร่างกายกำยำ “คริสเตียโน โรนัลโด” กองหน้าแข้งทองจากทีมเรอัล มาดริด ที่นับวันก็ยิ่งจะโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ทำลายสถิติต่าง ๆ ในวงการฟุตบอลที่นักฟุตบอลรุ่นพี่ทำเอาไว้อย่างต่อเนื่อง

เส้นทางการเป็นนักฟุตบอลของคริสเตียโน โรนัลโด

                มาทราบประวัติความเป็นมาของนักเตะฝีเท้าดีผู้นี้กันอีกสักครั้ง คริสเตียโน โรนัลโด เป็นนักเตะชาวโปรตุเกส ปัจจุบันอายุ 33 ปี สูง 185 เซนติเมตร ซึ่งผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้าผู้นี้ ได้เข้าสู่วงการนักเตะและประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว เริ่มต้นจากการเป็นนักฟุตบอลเยาวชนของทีมอังดูริญญา นาซีอลูนัล จนได้เริ่มเข้าไปเล่นในลีกภายใต้สังกัดของสโมสรสปอร์ติงลิสบอน จนไปเข้าตาเซอร์อเล็ก เฟอร์กูสัน และได้เซ็นต์สัญญาเข้าเป็นผู้เล่นของทีมแมสเชสเตอร์ยูไนเต็ด ก่อนจะถูกซื้อตัวมาอยู่ทีมเรอัล มาดริด ด้วยค่าตัว 80 ล้านปอนด์ ทำสถิติเป็นนักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดที่ถูกซื้อตัวจากทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

สถิติที่ถูกคริสเตียโน โรนัลโดทำลาย

                ล่าสุดต้นปี 2018 นี้ คริสเตียโน โรนัลโดก็ได้ทำลายสถิติและสร้างสถิติใหม่ ทำสถิติเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก ที่สามารถยิงได้ 10 นัดติดต่อกัน ไม่เพียงเท่านั้นเขายังสร้างสถิติยิงยูเวนตุสได้ถึง 9 ประตู ซึ่งถือเป็นนักเตะที่สามารถทำประตูได้มากที่สุดในการยิงคู่แข่งทีมเดียว อีกทั้งเขายังทำสถิติเป็นนักเตะที่ยิงรวมได้มากที่สุดเป็นจำนวน 39 ประตูในฤดูกาลนี้ ซึ่งถือเป็นการทำประตูได้มากที่สุดในลีกชั้นนำของยุโรป นอกจากนี้ในปี 2017 ที่ผ่านมาเขาก็ได้ทำลายสถิติเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของทั้ง 5 ลีกใหญ่ในทวีปยุโรปไปได้อย่างที่เรียกว่าสถิตินี้เป็นสิ่งที่ยากยิ่งที่จะมีนักเตะทำได้ และแล้วโรนัลโดก็ทำไปได้จริง ๆ ด้วยสถิติการทำประตูไปถึง 367 ประตู แซงจิมมี กรีฟส์ กองหน้าในตำนานจากทีมสเปอร์สที่เคยทำสถิติสูงสุดเอาไว้ 366 ประตูในอดีต

ดูเหมือนว่าคริสเตียโน โรนัลโดจะโชว์ฟอร์มได้ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็คงจะต้องคอยติดตามกันต่อไปว่าในปี 2018 นี้เขาจะสามารถสร้างสถิติใหม่ได้ในลีกใดอีกบ้าง รวมถึงสำหรับศึกฟุตบอลโลกที่ประเทศรัสเซียในปีนี้ เขาจะสามารถนำทีมโปรตุเกสโชวฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม และคว้าตำแหน่งหรือคว้าแชมป์ใดไปได้บ้าง ก็เป็นเรื่องที่คอบอลต้องคอยติดตามดูกันต่อไป