สิ่งที่ผู้หญิงต้องสร้างเองก่อนมีแฟน

เมื่อเราจะรับอะไรก็ตามเข้ามาในชีวิต เราต้องรู้เสมอว่าตัวเองมีความพร้อมในการรับสิ่งๆนั้นหรือคนๆนั้นเข้ามาในชีวิตแล้วหรือไม่ การสำรวจตัวเองอย่างถี่ถ้วนจึงเป็นเรื่องสำคัญ เหมือนเวลาที่เราต้องการค้นหาเส้นทางในแผนที่ เราต้องรู้ก่อนว่าเราเป็นใคร เราเดินทางด้วยพาหนะอะไร แล้วเราจะไปที่ไหน เราไปทำไม จึงจะสามารถเริ่มออกเดินทางไปยังจุดหมายได้ การมีแฟนหรือการสร้างความสัมพันธ์ใหม่ขึ้นในชีวิตก็เป็นเหมือนกัน โดยเราสามารถสำรวจตัวเองได้อย่างง่ายๆดังนี้

  1. คุณชอบร่างกายตัวเองไหม หลายๆคนเมื่อมองในกระจกก็เห็นแต่ข้อเสียของตัวเอง อ้วนเกินไป ขาใหญ่เกินไป สิวเยอะเกินไป หน้ามันเกินไป ไม่สวยเหมือนคนอื่น ไม่น่ารักเหมือนคนอื่น จริงอยู่การที่เรามองเห็นตัวเอง เราจะต้องมองเห็นทั้งข้อดีและข้อเสีย หากแต่การมองเห็นแต่ข้อดีจะทำให้เราหลงตัวเองเกินไป การมองเห็นแต่ข้อเสียทำให้เราไม่มีความสุขในการเห็นตัวเอง ไม่รักตัวเองและเอาแต่เฝ้ามองผู้หญิงคนอื่นด้วยความอิจฉา และในบางครั้งหากเรารักใครเราอาจจะเผลอต้องการมัดใจเขาไว้ด้วยความสวยภายนอก ทำให้ต้องทำหน้าเพิ่ม ทำให้ต้องทำจมูกเพิ่ม ทำให้ต้องทำหน้าอกเพิ่ม ต้องทำหลายอย่างมาก หากทำไปเพราะความต้องการส่วนตัวและเหตุผลส่วนตัวของตัวเองจริงๆ อันนี้คือเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่ไม่มีใครสามารถก้าวก่ายได้ แต่หากทำไปเพื่อต้องการมัดใจใครอีกคนให้รักเราตลอดไป พอรู้ตัวอีกที เราก็สูญเสียความเป็นตัวเองไปทั้งหมดแล้ว ไม่เหลือความเป็นตัวเองอยู่เลย เมื่อเวลานั้นมาถึง เราอาจจะเสียใจที่สุดก็ได้
  2. คุณรักและให้เกียรติตัวเองไหม กลายเป็นคำที่พูดกันอย่างแพร่หลายว่าให้รักตัวเอง ให้เคารพตัวเอง สิ่งเหล่านี้มีความสำคัญอย่างไรก่อนที่เราจะตกลงเป็นแฟนกับใคร หากเราไม่รักตัวเองมากพอ เราจะไม่สังเกตเห็นเมื่ออีกคนในความสัมพันธ์พูดหรือทำบางอย่างที่บ่งบอกได้ทันทีว่านี่คือไม่รัก นี่คือไม่ให้เกียรติ หรือในบางคนหากรักตัวเองไม่มากพอ เมื่ออีกคนในความสัมพันธ์ทำร้ายเรา ไม่ว่าจะด้วยในเรื่องของ วาจาหรือการกระทำ เราจะยอมทั้งหมดหรือในบางกรณีบางคนไม่รักตัวเองถึงแม้กระทั่งว่าทำร้ายร่างกายตัวเองเพื่อฉุดรั้งให้อีกคนยังอยู่กับเราเหมือนเดิม หากเรารักตัวเองมากพอ เราจะสามารถเดินออกมาจากความสัมพันธ์ที่ทำร้ายเราแม้ว่าจะยังรักเขาอยู่ เราจะสามารถกลับมายืนด้วยขาของตัวเองได้อีกครั้งอย่างมีเกียรติในตัวเอง
  3. คุณค่าของเราอยู่ตรงไหน การเห็นว่าคุณค่าของตัวเองคืออะไร ซึ่งส่วนใหญ่นักจิตบำบัดจะแนะนำให้คุณค่าในตัวเองของเราคือ นามธรรม เช่น ความจริงใจ ความซื่อสัตย์ ความมีน้ำใจ จิตใจที่เอื้ออาทร หากสิ่งเหล่านี้คือคุณค่าของเรา นับวันคุณค่าเหล่านี้จะยิ่งทรงคุณค่า นับวันจะยิ่งยกระดับจิตใจเราให้สูงขึ้นได้ หากคุณค่าเราอยู่ที่รูปธรรม เช่น ต้องหน้าไม่มีริ้วรอยถึงจะมีคุณค่าในตัวเอง เราจะเกิดความทุกข์โดยไม่จำเป็น เพราะยิ่งกาลเวลาผ่านไป เราแก่ตัวลง ริ้วรอยก็จะมากขึ้นจึงทำให้คุณค่าในตัวเราลดลง เกิดค่าใช้จ่ายความทุกข์และความกระวนกระวายที่ไม่จำเป็นตามมา
  4. เราสามารถสร้างคุณค่าในตัวเราด้วยตัวของเราเองได้หรือไม่ การคาดหวังว่าอีกคนที่เข้ามาในชีวิตเราจะทำให้เรามีความสุขมากขึ้น จะทำให้เรามีค่ามากขึ้นเป็นความคาดหวังที่สูงไปและเป็นความคาดหวังที่มีแต่จะทำร้ายตัวเอง คุณค่าในตัวเราคือคุณค่าที่เราสามรถสร้างได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะมีใครรักเราหรือไม่ ไม่ว่าใครจะคิดหรือพูดอย่างไรกับเราแต่คุณค่าในตัวเราจะยังคงอยู่ จะไม่มีใครมาพรากคุณค่าในตัวเราออกไปจากเราได้ เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเอาคุณค่าของตัวเราไปผูกติดกับคนอื่น วันใดก็ตามที่เขาหายไปคุณค่าในตัวเราจะหายไปด้วย เพราะในทุกความสัมพันธ์มีวันหมดอายุ อย่างน้อยที่สุดเราก็ตายจากกัน
  5. เราต้องการสามารถหาเงินเลี้ยงตัวเองได้ ต้องขอบคุณนักเรียกร้องสิทธิหลายๆกลุ่มที่ทำให้ผู้หญิงมีความสามารถในการหาเลี้ยงดูตัวเอง มีสิทธิในการเรียนหนังสือ ได้รับการศึกษา และโลกอินเทอร์เน็ตที่ทำให้การเข้าถึงข้อมูลเป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้น ทำให้การประกอบอาชีพสำหรับผู้หญิงง่ายขึ้นและเรายังเป็นที่ยอมรับมากขึ้นเมื่อเทียบกับอดีตที่ผ่านมา หากเราต้องการให้อีกคนซัพพอร์ตเราได้เรื่องของการเงิน เราจะขาดสภาวะคล่องตัวและไม่มีอิสระในการใช้ชีวิต ทำอะไรก็ต้องขออนุญาติก่อนเสมอ ความสัมพันธ์แบบคู่รักที่ทั้งสองฝ่ายควรจะเท่าเทียมกันแปรเปลี่ยนการเป็นความสัมพันธ์แบบผู้คุมกับนักโทษ ที่ไม่ว่าอยากได้อะไร อยากซื้ออะไร อยากไปเที่ยวที่ไหนก็ต้องได้รับการอนุมัติจากอีกคนเสมอ ผู้หญิงหลายคนยอมทนอยู่ในความสัมพันธ์ที่ทำร้ายกันไปมา ทั้งในแง่ของร่างกายและจิตใจ เพียงเพราะว่าไม่สามารถหางานทำได้ ไม่สามารถแยกตัวออกมาและเลี้ยงดูตัวเองได้ การแบมือขอเงินของคนอื่นโดยไม่คิดลุกขึ้นยืนด้วยลำแข้งของตัวเองคือการทำร้ายตัวเองในระยะยาว

สิ่งที่ได้กล่าวมาทั้งหมดคือชุดความคิดอีกรูปแบบหนึ่ง คือการมองโลกในอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น จะสามารถนำไปปรับใช้และเหมาะสมกับตัวคุณและความสัมพันธ์ของคุณได้มากน้อยแค่ไหน มีเพียงเจ้าตัวเท่านั้นที่รู้