Globalization หรือโลกาภิวัตน์ เริ่มยุคแรกคือยุคที่มนุษย์เริ่มเดินเรือสำรวจโลก เกิดการแลกเปลี่ยนสื่อสาร ชนชาติจีนเกิดการเรียนรู้ว่าตัวเองไม่ได้เป็นศูนย์กลางของจักรวาล ชาวตะวันตกได้เรียนรู้ว่ามนุษย์ชาติพันธ์ไม่ได้มีแต่คนหัวเหลือง ผู้คนเริ่มเห็นความหลากหลายของชาติพันธุ์ ศาสนา ภาษา วัฒนธรรม แนวคิด กาลเวลาผ่านไปจากที่ต้องเดินเรือเป็นเดือนๆ เพื่อให้คนชนชาติตะวันตกได้สื่อสารแลกเปลี่ยนกับคนชนชาติตะวันออกกลายเป็นการติดต่อสื่อสารข้ามทวีปได้เพียงปลายนิ้วและใช้เวลาน้อยกว่า 5 นาที ความหลากหลายในสังคมจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้มาตั้งนานแล้ว ในเมื่อสิ่งนี้ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เราจะสามารถอยู่กับมันได้อย่างไรให้เกิดประโยชน์และมีความสุขสูงสุด
- ยอมรับว่าชุดความคิดมีหลายชุด การที่คนมากกว่า 1 คนได้เกิดมาในครอบครัวที่ต่างกัน สภาพแวดล้อมที่ต่างกัน การเลี้ยงดูต่างกัน ประสบการณ์ในชีวิตที่เจอมาแตกต่างกัน ทำให้ชุดความคิดของแต่ละคนไม่เหมือนกัน การมองโลกต่างกัน การที่เขาไม่ได้มีชุดความคิดเดียวกับเราไม่ได้ทำให้เขาเป็นคนเลวทราม การที่เราไม่ได้มีชุดความคิดแบบเดียวกับเขาไม่ได้ทำให้เราเป็นผู้ร้าย เพียงแต่หากเราอยู่ในสถานการณ์เดียวกันและมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ย่อมสามารถหาทางออกร่วมกันได้เสมอ การเดินทางจากหมอชิตไปอนุเสาวรีย์ชัยไม่ได้มีวิธีเดียวฉันใด การมองเหตุการณ์ สถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นย่อมไม่ได้มีมุมมองเดียว ไม่ได้มีแนวคิดเดียวและชุดความคิดเดียวฉันนั้น ซึ่งเราไม่ได้มีหน้าที่ในการตัดสินแนวคิดและชุดความคิดที่แตกต่างจากเราว่าไม่ดี เลว ชั่ว ไม่มีประโยชน์ ในฐานะของคนที่อยู่ร่วมกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป การเคารพความแตกต่างของกันและกันในมิติต่างๆ ย่อมมีความสำคัญ
- นึกถึงข้อดีของความหลากหลายในสังคม การที่เราได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกับคนที่มีมุมมองที่ต่างออกไปทำให้เรามองโลกได้กว้างขึ้น การได้เรียนรู้ความแตกต่างระหว่างกันทำให้เรามองเห็นความเป็นไปได้ของสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้น เราสามารถเลือกมองสิ่งต่างๆได้จากหลายมุมมองมากขึ้น ทำให้เป็นคนที่มองสถานการณ์ได้รอบด้านมากขึ้น
- หยุดทัศนคติแบบเหมารวม แขกไม่ได้ขายโรตีทุกคน คนจีนไม่ได้ขี้โวยวายทุกคน ผู้หญิงที่พัทยาไม่ได้ทำงานในบาร์ทุกคน ผู้หญิงนุ่นกระโปรงสั้นไม่ได้เรียกร้องความสนใจจากผู้ชายทุกคน คนใส่แว่นไม่ได้เป็นเด็กเรียนทุกคน การตราหน้าคนอื่นเดียวการมองเขาเพียง 5 นาที ยังแต่จะทำให้เรามองโลกได้แคบลง ไม่ว่าเขาจะเป็นอย่างไร เราควรปล่อยให้เขาได้แสดงความเป็นตัวเองออกมาก่อน แล้วเรียนรู้ความเป็นกันและกันจากตรงนั้น
เมื่อเราต้องเจอความหลากหลายทุกวันไม่ว่าจะเป็นที่โรงเรียน ที่ทำงาน และอื่นๆ การที่คนอื่นไม่ได้นับถือศาสนาเดียวกันกับเรา ไม่ได้มีแนวคิดในเรื่องเพศ และสภาวะทางเพศแบบเดียวกันกับเราไม่ได้ทำให้เขามีค่าของความเป็นคนน้อยกว่าเรา ไม่ว่าจะแตกต่างหรือไม่แตกต่างแต่เราก็ต้องเคารพในการมีอยู่ของเพื่อนร่วมโลก และสิทธิมนุษย์ชนของคนอื่นเสมอ เราไม่สามารถทำให้ความหลากหลายหายไปจากโลกใบนี้ได้ (อย่างน้อยก็ในช่วงเวลานี้) แต่เราสามารถมีชีวิตอยู่ร่วมกับความหลากหลายอย่างมีความสุขได้