นิติพงษ์ เสลานนท์ หนุ่มนักเตะที่หลาย ๆ คนจับตามอง

ต้องบอกกันก่อนเลยว่า ทีมชาติไทยภายใต้การนำของโค้ชนิชิโนะ อากิระ เป็นทีมชาติไทยที่แฟนบอลภาคภูมิใจอย่างมาก นอกจากความเก่งกาจจนหลาย ๆ คนยกนิ้วให้แล้ว นักบอลทุกคนเองยังมีทั้งทักษะทางการเล่นบอลที่ไม่ว่าใครได้ชมต่างก็รู้สึกชื่นชอบนั่นเอง และปฏิเสธไม่ได้เลยว่า หนึ่งในนักเตะที่มีบทบาทในการทำประตูของเกมทีมชาติไทยและสหรัฐอาหรับเอมิเรตต์ก็คือหนุ่มนักเตะแข้งทอง นิติพงษ์ เสลานนท์

หนุ่มนักเตะที่ยึดตำแหน่งแบ็คขวาอย่างคงเส้นคงวา

หากใครที่ติดตามวงการฟุตบอลไทย คงจะรู้จักกับนิติพงษ์ เสลานนท์ ในฐานะของแบ็คขวาของทีมสระบุรี เอฟซี บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และการท่าเรือ ซึ่งจากผลงานที่ผ่านมาของเขา ทำให้แฟนบอลรู้จักกับเขาเป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่หลาย ๆ คนต่างรู้คือนิติพงษ์มักถูกมองข้ามให้ลงทีมชาติไทย ซึ่งที่เขาถูกมองข้ามนั้นเป็นเพราะช่วงที่ผ่านมา ชั่วโมงบินของเขายังน้อยอยู่บวกกับนักเตะตำแหน่งแบ็คขวานั้นมีหลายตัวเลือก หรือหากจะพูดอีกทีอาจเป็นเพราะยังไม่ถึงเวลาของนิติพงษ์ก็ได้ แต่ถึงแม้จะยังไม่ใช่วันของเขา แต่นิติพงษ์เองก็ยังตั้งอกตั้งใจเดินทางในเส้นทางสายฟุตบอล ด้วยความรักในอาชีพของตนเอง และรอว่าสักวันหนึ่ง จะมีคนที่ไม่มองข้ามความเก่งของเขาไป

การมาถึงของนิชิโนะ อากิระ

ด้วยผลงานของเขาที่โดดเด่นกับการเล่นให้กับสโมสรการท่าเรือ ทำให้แฟนบอลเริ่มจับตามอง และมีกระแสเรียกร้อง ต้องการให้นิติพงษ์ ติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ วันเวลาที่เขารอคอยมาถึงในที่สุด เพราะการมาถึงของนิชิโนะ อากิระ นั่นเอง นิติพงษ์ ถูกคัดชื่อเข้ามาติดทีมชาติไทยชุดคัดเลือกฟุตบอลโลก ในโซนเอเชีย ซึ่งสองเกมแรก นิติพงษ์ยังไม่ได้ลงสนาม แต่ในเกมที่ไทยเล่นกับคองโก นิติพงษ์ก็ได้เล่นจนจบเกมเลยทีเดียว แม้ว่าเกมที่เขาได้ลงเล่นจะเป็นแค่เพียงเกมอุ่นเครื่อง แต่เขาก็พยายามทำอย่างเต็มที่ โดยเขาสามารถเปิดบอลได้หลายครั้ง และในที่สุดเขาก็ได้รับโอกาสในเกมที่ไทยเจอกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตต์ ที่นิชิโนะ อากิระตัดสินใจเลือกนิติพงษ์เป็นแบ็คขวา ซึ่งเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง โดยในนาทีที่ 51 เขาเองได้เปิดบอลจากฝั่งขวา ให้เอกนิษฐ์ ปัญญา ยิงเข้าประตู ทำให้ไทยเป็นฝ่ายชนะ

จะเห็นได้ว่าโอกาส ไม่ได้มาถึงง่าย ๆ สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือการอดทนรอคอยจนกว่าจะถึงวันที่ใฝ่ฝัน ในวัย 26 ปีของนิติพงษ์ หลาย ๆ คนอาจจะมองว่าเขาหมดโอกาสที่จะโด่งดังในทีมชาติไทยชุดใหญ่แล้ว แต่เขาก็ไม่ได้เอาคำสบประมาทมาเป็นอุปสรรคให้ฟอร์มการเล่นตกลงไป ตรงกันข้าม เขายังทุ่มเททำสิ่งที่เขารัก จนวันนี้เขามาถึงจุดที่ตัวเองใฝ่ฝัน