ความรุนแรงของเหตุการณ์กราดยิงในสหรัฐอเมริกา ดูเหมือนจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ถึงแม้ประชาชนจะออกมารณรงค์ให้มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องของกฎหมายอาวุธปืน แต่ดูเหมือนว่าจะยังไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้แต่อย่างใด เพราะความรุนแรงจากการใช้อาวุธปืนในสหรัฐอเมริกา เริ่มมีมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 80 และทวีความรุนแรง จนมีการกราดยิงเกิดขึ้นถี่มากขึ้นในทศวรรษ 90 ถึงแม้จะมีกฎหมายควบคุมอาวุธที่เข้มงวดออกมาเพิ่มก็ตาม จนถึงช่วงหลังปี 2000 เหตุการณ์ก็ยังเพิ่มความร้ายแรงเป็นทวีคูณขึ้นไปเรื่อย ๆ
เหตุการณ์ในปี 2017
ย้อนไปเมื่อปีที่แล้ว เหตุการณ์กราดยิงในปี 2017 ที่สร้างข่าวคราวกระทบกระเทือนจิตใจและส่งผลกระทบให้หลายคนคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยสำหรับการใช้ชีวิตในสหรัฐอเมริกาก็คือเหตุการณ์ที่มือปืนกราดยิงใส่ฝูงชนในเทศกาลดนตรีกลางแจ้งในเมืองลาสเวกัส โดยมือปืนที่ก่อเหตุในครั้งนี้ได้บุกเดี่ยวกราดยิงจากห้องพักชั้นบนของโรงแรมมัณฑะเลย์ เบย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 58 คน และบาดเจ็บถึง 515 คน ส่วนตัวมือปืนเองก็ยิงตัวตายในห้องพักหลังจากก่อเหตุ ซึ่งเหตุการณ์นี้ถือเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญ และร้ายแรงที่สุดเหตุการณ์หนึ่ง ที่เคยเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา ไม่เพียงเท่านั้น ในเดือนพฤศจิกายน 2017 ก็ยังมีการก่อเหตุกราดยิ่งในโบสถ์ของรัฐเท็กซัส ซึ่งผู้ก่อการร้ายได้เข้าไปในขณะที่มีการทำพิธีทางศาสนาในวันอาทิตย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 27 คน และผู้บาดเจ็บ 20 คน ซึ่งคนร้ายถูกยิงเสียชีวิตในระหว่างเหตุการณ์
เหตุการณ์ในปี 2018 ที่ดูเหมือนจะทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น
ในปี 2018 เหตุการณ์ความรุนแรงลักษณะนี้ ก็ไม่ได้มีแนวโน้มว่าจะลดน้อยลง ตรงกันข้ามกลับทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นไปอีก ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ได้มีเหตุการณ์กราดยิงในโรงเรียนมัธยม ในเมืองฟลอริดาอีกครั้ง ทำให้ผู้ปกครองเริ่มหวั่นใจในเรื่องความปลอดภัยของบุตรหลานเป็นอย่างมาก เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 17 คนและบาดเจ็บถึง 50 ตน ซึ่งคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นอดีตนักเรียนวัย 18 ปีของโรงเรียนแห่งนี้นี่เอง โดยมือปืนคนนี้ได้เข้ามอบตัวในเวลาต่อมา และเหตุการณ์ล่าสุดก็ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยครั้งนี้เป็นการก่อเหตุในสำนักงานใหญ่ Youtube ในรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยผู้ก่อเหตุเป็นมือปืน 3 คน บุกเข้าไปในตึกและก่อเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 คนและบาดเจ็บ 3 คน
เหตุการณ์ที่มือปืนทำการกราดยิงและสาดกระสุนใส่ผู้บริสุทธิ์เหล่านี้ ทำให้ทั้งชาวอเมริกาเองและชาวโลกต้องกลับมาทบทวนว่าความรุนแรงเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร เป็นเพราะกฎหมายที่เปิดโอกาสให้การซื้อปืนเป็นไปได้โดยง่าย หรือเพราะปัญหาความรุนแรงทางด้านจิตใจ ความกดดันจากสังคม ที่ทำให้มือปืนตัดสินใจก่อเหตุเหล่านี้ขึ้น