จากข่าวคราวเหตุการณ์อุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกิดขึ้นกับรถทัวร์ติด ๆ กัน ทำให้หลายคนมีความกังวลในเรื่องของความปลอดภัย เมื่อต้องใช้บริการรถทัวร์หรือรถบัสเดินทางไปทำธุระ หรือไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ เนื่องจากเหตุการณ์ทั้ง 2 เหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก
เหตุการณ์สะเทือนขวัญรถทัวร์ต้นปี 2018
เรียกว่ายังไม่ผ่านช่วงกลางปีและยังไม่เริ่มเข้าช่วงเทศกาลสงกรานต์ด้วยซ้ำ แต่ก็ได้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิด โดยเฉพาะผู้ที่โดยสารรถทัวร์หรือรถบัสเป็นประจำ ซึ่งเหตุการณ์แรกในปีนี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรงและสร้างความสะเทือนใจให้กับคนในสังคมเป็นอย่างยิ่ง กับเหตุการณ์ที่คณะทัวร์ของชาวกาฬสินธุ์ ซึ่งผู้โดยสารที่เดินทางมากับรถบัสเป็นญาติกันทั้งหมด โดยอุบัติเหตุในครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 18 คน และผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก อุบัติเหตุในครั้งนี้เกิดจากรถทัวร์นำเที่ยวคันดังกล่าวเบรกแตกบริเวณริมทางหลวงแผ่นดิน ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา โดยอุบัติเหตุครั้งนี้รถทัวร์ได้พุ่งข้ามเกาะกลางไปชนต้นไม้และร้านค้าข้างทาง ส่วนคนขับได้หลบหนีไปหลังจากเกิดเหตุและได้เข้ามามอบตัวในภายหลัง ซึ่งจากการสำรวจสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้พบว่า รถทัวร์คันดังกล่าวไม่ได้วิ่งมาด้วยความเร็วเกินกำหนด แต่สาเหตุเกิดจากระบบห้ามล้อของรถทัวร์ชำรุด ประกอบกับบริเวณพื้นผิวถนนของจุดดังกล่าวมีความลาดชันและคดเคี้ยว ทำให้ไม่สามารถบังคับรถได้ จนทำให้เกิดอุบัติเหตุในที่สุด
เหตุการณ์ซ้ำ 2 รถทัวร์ไฟไหม้
หลังจากเหตุการณ์รถทัวร์นำเที่ยวเบรกแตกที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 คนเพียงไม่ถึงสัปดาห์ ก็ได้เกิดอุบัติเหตุโศกนาฏกรรมรถทัวร์อีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เป็นรถทัวร์ที่ได้นำแรงงานต่างด้าวชาติพม่าเข้ามาต่อวีซ่าอายุทำงาน เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดจากรถทัวร์ไฟไหม้ โดยจุดเริ่มต้นของการลุกไหม้เกิดจากบริเวณห้องเก็บของชั้นล่างส่วนของรถ ติดกับตรงบันไดทางขึ้นชั้นบน ซึ่งเมื่อคนขับทราบก็รีบเปิดประตูฉุกเฉินให้ผู้โดยสารหนีออก แต่ก็ไม่ทัน ทำให้ผู้โดยสารส่วนหนึ่งสำลักควันไฟหมดสติ และถูกไฟคลอกเสียชีวิตบนรถ เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 20 คน และมีผู้ที่หลบหนีรอดชีวิตออกมาจากรถได้ 27 คน
ทั้ง 2 เหตุการณ์เป็นบทเรียนราคาแพงที่ทำให้ทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ เอกชน ผู้ประกอบการขนส่ง ตัวคนขับเอง ต้องหันมาให้ความสำคัญในเรื่องของความปลอดภัยของผู้โดยสารมาเป็นอันดับ 1 รวมถึงต้องเคร่งครัดปฏิบัติตามข้อกำหนดและข้อกฎหมายในทุก ๆ ข้อกำหนดเพื่อเป็นประโยชน์กับทุกฝ่ายและเป็นการป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์โศกนาฏกรรมสะเทือนขวัญ และการสูญเสียชีวิตเหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำอีกเป็นอันขาด