วิเคราะห์เซเล็ปศิลปินดัง กับปัญหาทางจิต ซึมเศร้า ไบโพลาร์ หรือแค่คิดไปเอง

                คนทุกคนล้วนต้องประสบกับปัญหาด้วยกันทั้งนั้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าใครจะมีจิตใจเข้มแข็งพร้อมเผชิญและแก้ไขปัญหาได้มากกว่ากัน ซึ่งบางคนมีความแข็งแกร่งทางจิตใจเพราะถูกฝึกมาจากครอบครัว ในขณะที่บางคนต้องปล่อยให้ตัวเองจมดิ่งอยู่กับปัญหาที่แก้ไม่ได้ จนกลายเป็นปมลุกลามภายในจิตใจ ส่งผลให้เกิดโรคทางจิตที่ไม่สามารถรักษาได้ด้วยตัวเอง และดูเหมือนว่าคนที่มีชื่อเสียงมีหน้ามีตาในสังคมจะมีโอกาสเป็นได้มากกว่าบุคคลธรรมดา เนื่องจากภาระและความคาดหวังอันใหญ่หลวงจากคนรอบข้าง ทำให้ปมภายในจิตใจนั้นแก้ไม่ตก

ย้อนกลับไปราว ๆ 20 กว่าปีที่แล้ว ประเทศเรามีนางแบบชื่อดังมีประวัติเป็นเพียงแค่เด็กสาวธรรมดา ๆ แต่เธอได้รับโอกาสที่ดีจากผู้ใหญ่ในวงการแฟชั่น ประกอบกับการมีรูปร่างดีและใบหน้าขึ้นกล้องทำให้เธอได้โบยบินเข้าไปสู่อาชีพนางแบบระดับโลก จนได้ขึ้นปกนิตยสารชื่อดัง ด้วยความตื่นตาตื่นใจกับสังคมใหม่ ทำให้เธอได้พบปะกับผู้คนมากหน้าหลายตา แต่โชคร้ายที่เธอต้องเข้าสู่วังวนของยาเสพติด และเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาพลเมืองดีพบเห็นเธอเดินไร้สติอยู่ข้างถนนจนต้องพาส่งโรงพยาบาล พบว่าเธอคนนี้ก็คือนางแบบชื่อดังนามว่า ยุ้ย รจนา ผู้ป่วยเป็นโรคไบโพลาร์หรือโรคอารมณ์สองขั้ว ที่ไม่ได้เข้ารับการรักษามานานจนอาการกำเริบ ความหลงระเริงจากการโด่งดังและผลของยาเสพติดทำให้เธอต้องกลายเป็นคนไม่ปกติ ซึ่งปัจจุบันยุ้ยได้รับการรักษาจากจิตแพทย์และยิ่งไปกว่านั้นเธอยังได้รับโอกาสให้กลับเข้าสู่วงการแฟชั่นอีกครั้งในฐานะเบื้องหลัง

อีกหนึ่งกรณีคนดังกับอาการทางจิตที่กำลังเป็นกระแสอยู่ทุกวันนี้ก็คือ กรณีของเสก โลโซ ซึ่งทำการถ่ายทอดสดกิจวัตรประจำวันของตัวเองผ่านเฟสบุ๊คตั้งแต่ตื่นนอน ล้างหน้า แปรงฟัน ทานข้าว รวมไปถึงการพาดพิงถึงบุคคลอื่น ๆ ในทางเสียหาย จนคนใกล้ชิดออกมาเปิดเผยว่าเสกมีอาการของโรคไบโพลาร์และซึมเศร้า ซึ่งหยุดการรักษาและไม่ได้รับประทานยามาหลายเดือนแล้ว ทำให้สังคมเกิดความเป็นห่วงว่าเขาอาจเข้าสู่ภาวการณ์อยากฆ่าตัวตาย ซึ่งเป็นภาวะขั้นสุดท้ายของโรคนี้ จนกระทั่งวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมาได้มีรายงานข่าวว่าภรรยาเก่าและลูกชายคนโตของเสกได้ทำการเข้าไปในบ้าน ซึ่งเป็นสถานที่ที่เสกพักอยู่และไม่ได้ออกมาข้างนอกกว่า 6 เดือน แม่ลูกทั้ง 2 รวมทั้งคนสนิทอีกหลายคนได้ช่วยกันนำตัวเสกไปโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรียบร้อยแล้ว

จะเห็นว่าผู้ป่วยทางจิตไม่ว่าจะเป็นโรคซึมเศร้าหรือไบโพลาร์ ต่างก็ต้องการความรักความเอาใจใส่จากครอบครัวและคนรอบข้าง เนื่องจากผู้ป่วยทางจิตมักจะคิดว่าตนคือคนปกติจนอาการนั้นลุกลามไปสู่ภาวะที่รักษาได้ยาก นอกจากนี้โอกาสที่จะได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ คือสิ่งที่ผู้ป่วยต้องการมากที่สุดหลังจากการรักษา ดังนั้นคนรอบข้างควรทำความเข้าใจและช่วยเหลือเขาเหล่านี้อย่างเต็มที่

 

เมื่อทั่วโลกต้องประสบภาวะอุทกภัยฉับพลัน ธรรมชาติลงโทษหรือแค่ฤดูกาลเปลี่ยนแปลง ?

เรียกว่าเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่คาดไม่ถึง ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา อุทกภัยที่ปะทะมาแบบฉับพลันทำให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้างต่อหลาย ๆ ประเทศ การเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเช่นนี้ทำเอาคนส่วนใหญ่ประเมินกันไปว่าอาจจะเป็นการลงโทษของธรรมชาติต่อมวลมนุษยชาติ ในขณะที่บางคนคิดว่าเป็นเพียงฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงเท่านั้น ซึ่งหลายประเทศต้องประสบกับภาวะน้ำท่วมกะทันหันจนไม่ทันตั้งตัว ทำให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก

เมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาได้มีรายงานจากสำนักข่าวต่างประเทศว่าเกิดเหตุการณ์ระทึกขวัญที่เมืองอังการา ประเทศตุรกี โดยมีการเผยแพร่คลิปรถยนต์ร่วมร้อยคันถูกกระแสน้ำพัดพาไปกองรวมกัน และที่สำคัญรถยนต์บางคันยังมีคนอยู่ในนั้นทำให้เกิดภาพการพยายามหนีออกจากรถเพื่อเอาชีวิตรอดกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดจากการที่มีฝนตกอย่างหนักติดต่อกันถึง 3 ชั่วโมง เป็นผลให้เกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลันจนชาวเมืองต้องพากันหนีตาย

นอกจากนี้ประเทศที่คนไทยนิยมไปท่องเที่ยวอย่างประเทศญี่ปุ่น ก็ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลันเมื่อไม่นานมานี้เช่นกัน โดยมีสำนักข่าวทั่วโลกได้รายงานข่าวว่าประเทศญี่ปุ่นต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติครั้งยิ่งใหญ่และร้ายแรงที่สุดในรอบ 10 ปี จากการถูกน้ำท่วมและดินโคลนถล่มบ้านเรือนจนได้รับความเสียหายกันถ้วนหน้า ซึ่งเหตุการณ์ร้ายแรงนี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ชาวเมืองทางตะวันตกของประเทศญี่ปุ่นต้องได้รับผลกระทบจากบ้านเรือนพังเสียหาย โดยมียอดผู้เสียชีวิตกว่า 60 คน และบาดเจ็บกว่า 40 คน ซึ่งสำนักงานการกู้ภัยของญี่ปุ่นต้องทำงานอย่างหนักเพื่อช่วยบรรเทาทุกข์ให้กับผู้ประสบภัย

หลังจากวิกฤตของประเทศญี่ปุ่นเพียง 1 เดือนก็มีการรายงานข่าวอีกว่าเกิดอุทกภัยฉับพลันในรัฐเกรละ ซึ่งเป็นรัฐทางตอนใต้ของอินเดีย ภัยธรรมชาติครั้งนี้ถือเป็นภัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเลยก็ว่าได้ เนื่องจากมีผู้เสียชีวิตกว่า 300 คน และชาวเมืองกว่า 400,000 คน ต้องอพยพไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวที่ทางการจัดไว้ให้ ซึ่งอุทกภัยที่เกิดขึ้นในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากฤดูมรสุมช่วงต้นปีที่ผ่านมาโดยรายงานระบุว่าร่างของผู้เคราะห์ร้ายส่วนมากพบเจออยู่ใต้ซากปรักหักพังจากการถูกดินโคลนถล่ม จนภายหลังทางการอินเดียได้ประกาศให้สร้างศูนย์พักพิงชั่วคราวเนื่องจากยอดผู้ประสบภัยเพิ่มขึ้น

นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันนี้ซึ่งมีระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือนจะเห็นว่ามีหลายประเทศที่ทั่วโลกได้รับผลกระทบจากภาวะอุทกภัยฉับพลัน ถึงแม้ว่าจะมีการประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาของแต่ละประเทศเรื่องความรุนแรงของพายุและเมฆฝนล่วงหน้า แต่ทว่าหลายครัวเรือนยังคงไม่เชื่อในวิทยาศาสตร์ สำหรับประเทศไทยเองช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงที่น้ำจากแม่น้ำเหนือกำลังไหลลงสู่แม่น้ำทางภาคกลางทำให้หลายหน่วยงานต้องจับตาดูและคอยรายงานอยู่เป็นระยะ ๆ ดังนั้นประชาชนที่อยู่ตามเส้นทางน้ำก็ควรรับฟังข่าวสารและเชื่อคำเตือนจากทางการเพื่อทำการป้องกันให้ทันท่วงทีและไม่ให้เกิดการสูญเสียที่คาดไม่ถึง

 

บัญชีโซเชียลมีเดีย กับการตั้งรหัสผ่านเพื่อความปลอดภัยสุงสุด

                โซเชียลมีเดียต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook Twitter Instagram Youtube ร่วมไปถึง E-mail  ที่จะต้องตั้งรหัสผ่าน ควบคู่กับชื่อบัญชี ควรจะต้องระมัดระวังให้ดี เพราะชื่อผู้ใช้ถูกเปิดเผยให้คนทั่วไปเห็นอยู่แล้ว เมื่อติดต่อกับบัญชีของคุณ สิ่งที่คุณควรเก็บไว้เป็นความลับคือรหัสผ่าน และการตั้งรหัสผ่านของคุณควรจะเป็นรหัสผ่านที่คาดเดายาก ไกลตัวคุณ เพราะหากมีมือดีหรือผู้ประสงค์ร้าย ต้องการใช้ชื่อของคุณในทางที่ผิด หรือเข้ามาล้วงข้อมูลลับของคุณ พวกเขาเหล่านั้นสามารถทำได้ง่าย หากคุณตั้งรหัสผ่านที่สามารถคาดเดาได้ง่ายนั่นเอง

กลุ่มรหัสผ่านที่ไม่ควรนำมาใช้ในการตั้งรหัสผ่านคือ

ชุดตัวเลขเรียงกัน เช่น “1234” “5678” ชุดตัวเลขเดิมซ้ำ ๆ กัน เช่น “0000” “9999” “1111” หรือจะเป็นตัวอักษรเรียงกัน เช่น “abcd” “wxyz” กลุ่มคำที่สามารถคาดเดาได้ง่าย เช่น “password” “pass” “password1234”

กลุ่มรหัสผ่านที่เป็นข้อมูลของคุณ ที่สามารถค้นหาได้โดยง่าย เช่น วันเดือนปีเกิด ค.ศ.หรือพ.ศ.ที่คุณเกิด เลขท้ายเบอร์โทรศัพท์ ชื่อเล่น ชื่อจริง เป็นต้น เพราะข้อมูลชุดนี้ผู้คนส่วนใหญ่มักจะรู้จากตัวคุณเองได้ง่ายเกินไป เช่น หากคุณใช้ Facebook และตั้งเปิดเผยวันเดือนปีเกิดในระบบ แล้วนำวันเดือนปีเกิดมาตั้งเป็นรหัสผ่าน ก็ยิ่งทำให้ผู้ประสงค์ร้ายสามารถเข้ามาปลอมแปลงเป็นตัวคุณ หรือเข้ามาโพสข้อความทำร้ายคุณได้อย่างง่าย ๆ นั้นเอง

ป้องกันผู้ประสงค์ร้าย เข้ามาล้วงข้อมูลลับได้ด้วยการตั้งรหัสผ่านที่ถูกต้อง

                หากตั้งรหัสผ่านโซเชียลมีเดียควรตั้งรหัสผ่านที่มี ตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวพิมพ์เล็ก (a – z) ตัวพิมพ์ใหญ่ (A – Z) ตัวเลข (0 – 9) สัญลักษณ์ (!@#$%^&*()_+|~-=\`{}[]:”;'<>?,./)  ผสมกัน โดยมีความยาวเกิน 8 ตัวขึ้นไป และหากยิ่งยาวจะยิ่งคาดเดาได้ยาก ตัวอย่างเช่น “p@ssWorc!2234” “Pa$$_4975” เป็นต้น

ควรเปลี่ยนรหัสทุก ๆ 6 เดือน แต่ก็ควรระวังว่าจะลืมรหัสผ่าน จนไม่สามารถเข้าใช้งานได้เอง ตรวจสอบสถานะการเข้าบัญชีเป็นประจำ ว่ามีคนอื่น หรือมีการเข้าถึงจากอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ไม่ใช่ของเราหรือไม่ หากเป็นไปได้รหัสในแต่ละโซเชียลควรเป็นรหัสที่แตกต่างหาก แต่หากมั่นใจในความยากของรหัสแล้วก็อาจจะใช้รหัสชุดเดียวกันก็ได้

อีกประเด็นที่สำคัญไม่แพ้ใคร ควรเก็บอีเมล์ที่ใช้ในการสมัคร Facebook Twitter Instagram หรือโซเชียลอื่น ๆ แยกจากอีเมล์ที่เปิดเผยในสาธารณะ เพราะหากอีเมล์นั้น ๆ โดนมือดีเข้าถึงได้ นั้นหมายความว่าทุกโซเชียลที่เราสร้างไว้มือดีจะสามารถเข้าถึงได้ทั้งหมด

สังคมในยุคปัจจุบัน เป็นสังคมยุคโซเชียลมีเดีย เหมือนมีทุกคนสื่อในมือ สามารถจะพูดจะแสดงความคิดเห็นอะไรก็ได้ แต่หากมีผู้ประสงค์ร้ายเข้าระบบของเราได้ แล้วโพสข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหาย หรือไปหลอกขอข้อมูลสำคัญจากคนใกล้ ๆ ตัวเราเพื่อนำข้อมูลไปประกอบธุรกรรมผิดกฎหมาย ยิ่งเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวมากเท่าไหร่ ในบางครั้งข้อมูลเหล่านั้นอาจเป็นภัยมืดมาทำร้ายตัวเราเองได้ในอนาคต

 

อุบัติเหตุบนท้องถนน กับการเก็บหลักฐานสำคัญจากกล้องติดรถยนต์

                ในการขับรถนอกจากจะต้องใช้ความระมัดระวังสูง ไม่ประมาท เพื่อป้องกันความผิดพลาด จนเกิดอุบัติเหตุ เกิดความเสียหายทั้งทรัพย์สิน ของมีค่า รวมไปถึงการเสียชีวิต แต่หากเราระมัดระวังแล้ว บางครั้งผู้อื่นประมาทก็ย่อมทำให้เกิดเหตุไม่คาดฝันกับเราได้

หากเกิดเหตุขึ้นมาแล้วจะทำอย่างไร ให้เรามีหลักฐานว่าเราไม่ใช่คนผิด แต่ผู้ที่มาชนเราต่างหากที่เป็นคนกระทำผิดวินัยจราจร เพื่อให้เราสามารถฟ้องร้อง หรือแจ้งความดำเนินคดีต่อไปได้ หากเป็นสมัยก่อนคงต้องพึ่งกล้องวงจรปิด หรือ CCTV ที่ถูกติดอยู่ตามแยก ตามถนนหนทางต่าง ๆ แต่หากโชคร้ายจุดเกิดเหตุนั้นไม่มีกล้องติดอยู่ ก็เป็นเหตุทำให้พลาดภาพเด็ดประกอบสำนวนฟ้องร้องเอาความผิดก็เป็นได้ แม้แต่ใจกลางกรุงเทพมหานคร เมืองที่ไม่เคยหลับ มีสีสันในทุกโมงยาม ก็ใช่ว่าจะสามารถหาภาพได้เช่นกัน

จะดีไหมหากคุณสามารถติดกล้องไว้สำหรับบันทึกภาพทุกเหตุการณ์บนรถของคุณเอง

ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้กล้องราคาที่แสนแพงในสมัยก่อน กลับมีราคาถูกลง คุณภาพดีเท่าเดิม หรือเผลอ ๆ จะคุณภาพดีกว่าเมื่อก่อน ยังมีขนาดที่เล็กลง สะดวกสบายในการพกพา และนำมาประยุกต์ใช้ในโอกาสต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม เช่นเดียวกับกล้องติดรถยนต์ ที่ย่อกล้องวีดีโอที่ใช้สำหรับการบันทึกภาพเคลื่อนไหวมาจำลองเป็นกล้องวงจรปิด ที่ไว้คอยบันทึกภาพหน้ารถยนต์ สำหรับไว้เป็นหลักฐาน หรือเป็นข้อชี้วัดว่า คุณขับรถไม่ผิดกฎจราจร หรือเป็นเครื่องมือในการเอาผิดผู้ที่มาทำให้คุณเดือดร้อนได้อีกด้วย

คุณสมบัติที่ดีของกล้องติดรถยนต์ สำหรับคนขับรถ

กล้องติดรถยนต์ควรมีความละเอียดภาพที่คมชัดในการบันทึกทั้งกลางวันและกลางคืน หากเหตุร้ายสามารถบันทึกภาพได้อย่างมีคุณภาพในสภาวะแสงน้อย มุมกล้องกว้างสามารถเก็บภาพหน้ารถให้ได้กว้างมากที่สุด สามารถบันทึกภาพได้นานโดยประเด็นนี้ขึ้นอยู่กับความจุของเมมโมรีที่ใส่ในกล้องนั่นเอง รวมไปถึงบริการหลังการขาย และราคาที่เหมาะสม

เนื่องจากเทคโนโลยีที่ก้าวไกลทำให้มีฟังก์ชันต่าง ๆ เพิ่มจากเดิมมากขึ้นไม่ว่าจะเป็น การบันทึกเสียง หน้าจอสำหรับเล่นภาพที่บันทึกได้ทันที ระบบป้องกันภาพสั่น แสดงวันที่ที่บันทึกภาพ สามารถเข้าดูไฟล์และดาวน์โหลดได้จากสมาร์ทโฟน มีระบบ GPS เผื่อกรณีที่ญาติหรือคนที่บ้านติดต่อไม่ได้ อยากรู้ว่าอยู่จุดใด สามารถตรวจสอบผ่านกล้องติดรถยนต์นี้ได้

ภัยอันตรายใกล้ตัวมีมากมาย ไม่ใช่เพียงแค่อุบัติเหตุที่เกิดจากรถยนต์บนท้องถนนเท่านั้น ก็มีไม่น้อยที่จอดรถติดอยู่ที่ไฟแดง แต่มีโจรมาปล้นทรัพย์ได้ หากมีกล้องติดรถยนต์ติดรถไว้ ย่อมเป็นตัวช่วยให้โจรไม่กล้าเข้ามาทำอันตรายได้ กลัวที่จะถูกบันทึกภาพและนำไปดำเนินคดีได้ในนั่นเอง

 

สังคมสี่เหลี่ยม กับปัญหาสุขภาพของคนที่ติดมือถือ

                การต้องพกโทรศัพท์ไปด้วยตลอดเวลา ต้องโพสข้อความทุก ๆ 10 นาที ต้องการขอกำลังใจจากชาวโซเชียลอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตาม ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ส่งข้อความแทนการเดินเข้าไปพูดคุย รู้ดีเมื่อโทรศัพท์มีแจ้งเตือนตลอดเวลา สบตาผู้คนน้อยลง พกโทรศัพท์เข้าห้องน้ำด้วยแม้นว่าจะไปอาบน้ำก็ตาม หากคุณมีพฤติกรรมเหล่านี้ นั้นหมายถึงว่าคุณติดโทรศัพท์มือถือมากจนเกินไป จนขาดการเข้าสังคมเสีย และกำลังจะสูญเสียสุขภาพสายตาแล้ว

หากสิ่งไหนที่มากเกินไปย่องเกิดผลร้ายต่อตัวคุณเสมอ การที่ติดโทรศัพท์มากจนเกินไปมีผลเสียหลักต่อหน้าที่การงานของคุณอย่างแน่นอน หากอยู่ในวัยเรียนจะทำให้ผลการเรียนออกมาไม่ดีเท่าที่ควร ไม่มีสมาธิอยู่กับบทเรียน อยู่กับหนังสือที่จะต้องอ่าน หากอยู่ในวัยทำงานจะส่งผลทำให้งานไม่เสร็จ ส่งงานไม่ทันตามกำหนดเวลา เจ้านายดุ เผลอ ๆ อาจจะถึงขั้นโดนไล่ออกก็เป็นได้ และกับร่างกายของคุณก็จะมีผลเสียไปด้วย

มองจอมากเกินไปสุขภาพจะเสียได้

ในการใช้โทรศัพท์มือถือในการท่องโซเชียลต่าง ๆ หรือในการเล่นเกม มักจะต้องใช้สายตาในการจดจ่อ เพ่งมองในสิ่งที่เราสนใจ นั้นทำให้ดวงตาอาจมีปัญหาได้ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บตา ตาล้า ตาช้ำ ตาแดง เนื่องจากถือมือถือไม่ได้อยู่ในระดับสายตาที่เหมาะสม หรือความสว่างหน้าจอไม่เหมาะสม รวมไปถึงอันตรายจากแสงสีฟ้าที่ได้รับจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือนั้นเอง

อีกทั้งยังมีอาการทางกล้ามเนื้อหลัง หรือกระดูกสันหลัง เนื่องจากท่านั่งและถือโทรศัพท์มือถือ ส่วนใหญ่แล้วจะนั่งกันไม่ถูกท่า จนทำให้ปวดบ่า ปวดหลัง ปวดเอว และอาจส่งผลในระยะยาวจนทำให้หมอนรองกระดูกเสื่อมได้ในอนาคตหากนั่งผิดท่าต่อไป

ยังมีประเด็นในเรื่องของนิ้ว ที่ใช้ในการกด ๆ จิ้ม ๆ ปุ่ม หรือแป้นพิมพ์ ที่อาจจะเกิดอาการนิ้วล็อก หรือนิ้วค้างได้ เพราะการเคลื่อนไหวนิ้วที่อยู่ในบริเวณที่จำกัด ท่าที่จำกัดอยู่บริเวณหน้าจอสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ เท่านั้น

นักวิจัยได้ค้นคว้าวิจัยมาแล้วว่า โทรศัพท์มือถือจะปล่อยคลื่นออกมาทำร้ายสมองของเราได้หาก โทรศัพท์อยู่ใกล้บริเวณหัวมากกว่าระยะ 1 เมตร นั้นหมายความว่าถ้าเราใช้โทรศัพท์ตลอดเวลา หรือนอนข้าง ๆ โทรศัพท์มือถือ คลื่นไฟฟ้าจากโทรศัพท์มือถือก็จะทำร้ายสมองของเราอยู่ตลอดเวลานั่นเอง

การดูแลร่างกายและการใช้โทรศัพท์ให้ถูกต้อง

หากมีดวงตาเริ่มมีปัญหาจากการใช้โทรศัพท์มือถือมากจนเกินไป ควรหันมาดูแลสุขภาพร่างกายโดยการปะคบเย็นรอบ ๆ ดวงตา และแบ่งเวลาพักผ่อนให้ดวงตาโดยการนอนพักผ่อนอย่างน้อยวันละ 7 ชั่วโมง หากปวดหลังควรยืดเส้นยืดสายด้วยการออกกำลังกาย

ส่วนการใช้โทรศัพท์มือถือให้ถูกต้อง ไม่ควรนำโทรศัพท์มาแนบหูนานเกินไป ควรใช้หูฟังแทนการแนบหูกับโทรศัพท์โดยตรง หากต้องการใช้โทรศัพท์เป็นนาฬิกาปลุกในแต่ละวัน หรือกลัวมีเหตุการณ์ฉุกเฉิน ควรวางห่างจากตัว หรือวางไว้บนโต๊ะทำงานข้างเตียง แทนการวางไว้บนที่นอน หรือวางไว้ใต้หมอนนั่นเอง

โทรศัพท์มีทั้งประโยชน์และโทษในสิ่งเดียวกัน หากเราใช้ให้ถูกวิธีเราก็จะได้ประโยชน์จากโทรศัพท์มือถือเครื่องนี้ แต่หากใช้มากจนเกินไปนอกจากจะทำร้ายสุขภาพแล้ว ยังทำให้เกิดผลเสียต่าง ๆ มากมายตามมากับเราอีกด้วย ไม่ได้ประโยชน์เท่าที่ควรเนื่องจากไปจดจ่อมากจนเกินไปจนสุญเสียยังคมรอข้างแล้วยังเสียสุขภาพอีกด้วย

 

ภาษาไทยโบราณ ตามรอยละครบุพเพสันนิวาส ที่แม้แต่คนไทยยังไม่รู้

                ละครบุพเพสันนิวาสถือเป็นละครย้อนยุค คอมมาดี้ เรื่องเด่นเรื่องดังในยุค ที่เป็นเรื่องราวข้ามภพข้ามชาติ ไปยังยุคพระนารายณ์มหาราช สมัยอยุธยา ที่เนื้อหาเข้มข้น กระชับ เข้าใจง่าย เข้าถึงได้ง่าย ทำให้ได้เรียนรู้ถึงประวัติศาสตร์ไทย เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างไทย – ฝรั่งเศส ยังรวมไปถึงประวัติของบุคคลสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น พระนารายณ์มหาราช หลวงสุรสาคร ออกญาโหราธิบดี ท้าวทองกีบม้า เป็นต้น
ซึ่งถือว่าเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ที่ละครดังถูกนำกลับมาฉายใหม่ หลังจากที่ละครจบไปไม่นาน และออกอากาศอยู่ในปัจจุบัน (พฤษภาคม 2561) หากใครยังไม่เคยดูในครั้งแรก วันนี้เราเลยขอนำคำไทยโบราณในละครมาให้รู้ก่อน จะได้ไม่งงกัน

ออเจ้า ตามจดหมายเหตุลาลูแบร์ ของชาวฝรั่งเศส ระบุว่าใช้เรียกแทนบุคคลที่ 3 ที่มีฐานะต่ำกว่า หรืออายุน้อยกว่า แต่หากระหว่างการจีบกันระหว่าง เกศสุรางค์กับคุณพี่หมื่นนั้น แรก ๆ ก่อนจะหวานกัน จะใช้คำแทนกันว่า ออเจ้า กับคุณหมื่นมาโดยตลอด แต่เมื่อปิ้งกัน จะปรับเปลี่ยนคำเรียกกันมาเป็น น้อง กับคุณพี่แทน

เว็จ หรือ ห้องน้ำในปัจจุบัน มีลักษณะเป็นส้วมหลุม ให้นั่งยอง ๆ มีไม้หรือหินพาดให้เหยียบระหว่างทำธุระ จะมีใช้เพียงคนในสังคมชั้นสูงเท่านั้น

เทื้อคาเรือน ใช้แทนกับหญิงสาวที่ไม่ได้แต่งงาน เมื่อถึงวัยที่จะต้องแต่งงานออกเรือนแล้ว หรือคำในปัจจุบันที่เรียกว่า สาวขึ้นคาน หรือสวยคานทองนั้นเอง

ม้ากระทืบโรง/หัวล่อดังม้าล่อ หรือ ม้าดีดกระโหลด คือการแสดงกิริยาไม่เรียบร้อย ไม่สมเป็นกุลสตรีไทย เดินไม่เรียบร้อย พูดจาเสียงดัง ทำตัวไม่น่ารักในสมัยก่อนจะถูกเอ็ดว่าม้ากระทืบโรงได้

ถูกเอ็ด/โดนเอ็ด หมายถึง การโดนดุ เมื่อทำอะไรซน ๆ แปลก ๆ หรือทำของเสียหายโดยไม่ระวัง จนผู้ใหญ่ดุ หรือพูดเตือน สั่งสอน

วาจาเชือดเชือน หมายถึง คำพูดที่พูดกระทบต่อจิตใจผู้ฟังทั้งทางตรงและทางอ้อม

ฟะรังคี หมายถึงชาวต่างชาติ หรือคำว่า ฝรั่งในปัจจุบัน

ชะม้ายชายตา หมายถึง กิริยาการอมยิ้มเอียงอาย ส่งสายตายโปรยเสน่ห์ให้ผู้ชาย

5 บาท 10 บาท ในสมัยก่อนใช้แทนการบอกเวลา 5 บาทหมายถึง ครึ่งชั่วโมง 10 บาทหมายถึง 1 ชั่วโมง

เพลาชาย หมายถึงช่วงเวลาบ่ายโมงตรง

ลางที หมายถึง บางที บางครั้ง

สาวหาว หมายถึงหาบคาย โอหัง วาจาก้าวร้าวกับผู้ใหญ่

จิตวิปลาส หมายถึง การกระทำที่ผิดแปลก หรือในสมัยนี้ถูกแทนด้วยคำว่า บ้า นั่นเอง

อึกตะปือนัง หมายความว่า เยอะ ล้นหลาม หรือจำนวนมาก

เสาะท้อง หมายถึง อาการท้องร่วงหรือท้องเสีย

ทะเวน หมายถึง เดินทางไปทั่ว ๆ หรือตระเวน

สู่รู้ หมายถึง การอวดรู้ ทำเป็นรู้เรื่องราวต่าง ๆ แต่ความจริงแล้วไม่รู้เรื่องดังกล่าวเลย

แชเชือน หมายถึง การพูดจาแชเชือน ไม่ตรงกับความเป็นจริง กลับไปกลับมา หรือในปัจจุบันแทนว่า การแถ

ภาษาไทยในแต่ละยุคแต่ละสมัยจะมีเอกลักษณ์ เสน่ห์เป็นของตัวเอง และสามารถสังเกตได้ว่า ภาษาไทยของเรานั้นมีวิวัฒนาการทางภาษามาในทุกยุคทุกสมัย รับอิทธิพลจากภาษาตะวันตก ภาษาพื้นบ้านบ้าง แม้แต่ภาษาเพื่อนบ้านเราก็ยังมี แต่ไม่ว่าจะในยุคไหน ๆ ภาษาถือเป็นสิ่งสวยงาม และช่วยให้เราสื่อสารได้เข้าใจกันนั่นเอง

 

เงินดิจิตอล ค่าเงินยุคใหม่ ที่คนไทยกำลังตื่นกระแส

เงินดิจิตอลคือค่าเงินที่ไม่มีหน่วยงานใด ๆ เข้ามากำกับดูแล กำหนดมูลค่าตายตัว มีมูลค่าขึ้นลงตามการซื้อขาย หรือเรียกง่าย ๆ ว่าตามความต้องการในตลาด ซึ่งแตกต่างกับค่าเงินในปัจจุบัน เช่น ค่าเงินบาทถูกควบคุมค่าเงินโดยธนาคารแห่งประเทศไทย

เงินดิจิตอลถูกคิดค้นขึ้นสกุลแรกคือ Bitcoin

                Bitcoin ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2552 โดยนักพัฒนาชาวญี่ปุ่น ใช้นามแฝงว่า Satoshi Nakkamoto ใช้ SHA-256 เป็นเครื่องมือในการเข้ารหัสสกุลเงินเอาไว้ และเมื่อมีคนขุดพบก็สามารถนำ Bitcoin ที่ได้ไปใช้ทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้

หากจะยกตัวอย่างง่ายๆ  คือ นาย Satoshi ได้ตั้งโจทย์คณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนเอาไว้มาก ๆ ด้วยใช้เครื่อง SHA-256 เป็นอุปกรณ์ในการสร้างโจทย์ (คอมพิวเตอร์ประมวลผลและคิดโจทย์ได้รอบครอบกว่ามนุษย์แต่ นาย Satoshi เป็นคนกำหนดรูปแบบเบื้องต้นของโจทย์) และเมื่อได้โจทย์แล้วก็ปล่อยให้ผู้ที่สนใจเข้ามาแก้ไขโจทย์ หากแก้โจทย์ได้ก็จะได้รับ Bitcoin นั้น ๆ ไปใช้เหมือนสกุลเงินทั่วไปบนโลกออนไลน์

โดย Bitcoin ถูกผลิตขึ้นมาเพียง 21 ล้าน Bitcoin เท่านั้น โดยใน 1 Bitcoin ยังแบ่งย่อยเป็นอีก 100 ล้าน Satoshi อีกด้วย นั้นหมายความว่าในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ขึ้นมาหากได้โจทย์ง่ายอาจจะได้รับรางวัลเพียง 1 Satoshi ซึ่งเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของ Bitcoin เท่านั้น

และหาก Bitcoin ถูกขุดหรือถูกแก้โจทย์ปัญหาจนหมดแล้วละก็ ต่อไปคือส่วนของการเทรด (Trade) เท่านั้น นั่นคือการซื้อขาย Bitcoin และราคาขึ้นลงตามราคาตลาดตามความต้องการที่มีมากหรือน้อย ไม่มีธนาคารกลางหรือคนกลางมาควบคุมมูลค่าของ Bitcoin แต่ถึงในปัจจุบันการขุดพบของ Bitcoin ยังไม่ครบทั้งหมด 21 ล้าน Bitcoin แต่ก็มีนักลงทุนส่วนมากที่ใช้การเทรด (Trade) เป็นการซื้อหรือเกร็งกำไรจากสกุลเงินดิจิตอลที่ชื่อว่า Bitcoin

เงินดิจิตอลในปัจจุบันมีหลายสกุล

เงินดิจิตอลในปัจจุบันมีหลากหลายสกุลเงินในปัจจุบันมากกว่า 20 สกุลเงิน แต่มีหลักการและวิธีการคล้าย ๆ กับ Bitcoin ทั้งหมด แตกต่างกันที่ผู้สร้าง รูปแบบการได้มา และมูลค่าความต้องการของตลาด เช่น Ethereum (ETH) เปิดตัวในปี 2014, Ripple (XRP) ที่ถูกเปิดตัวในปี 2014 เช่นเดียวกัน แต่มีความต่างจากสกุลเงินอื่น เนื่องจากไม่มีการขุดใด ๆ แต่อาศัยการเพิ่มมูลค่าด้วยการเทรดเท่านั้น

การใช้หรือการจัดเก็บสกุลเงินดิจิตอล

หากคุณมีเงิน 10,000 บาท คุณต้องการนำไปฝากธนาคาร คุณต้องมีสมุดเงินฝาก และนำเงินจำนวน 10,000 บาทไปธนาคารพร้อมกับสมุดเงินฝาก เพื่อนำเงินเข้าบัญชีของคุณ ทางธนาคารจะลงบันทึกว่าในบัญชีของคุณมีเงินจำนวน 10,000 บาท

ในทางกลับกันสกุลเงินดิจิตอลจะเปิดให้คุณสามารถสร้าง Address หรือเลขที่บัญชีของคุณ ได้ผ่านทางหน่วยงานกลางที่คุณไว้วางใจจะเข้าไปเปิดกระเป๋าเงินไว้กับเขา หน่วยงานกลางเปรียบเสมือนธนาคารในโลกแห่งดิจิตอลนั่นเอง

เมื่อคุณมีเลขที่บัญชีหรือ Address เรียบร้อยแล้ว คุณสามารถโอนเงินสกุลปัจจุบันของคุณ (เงินบาท) เข้าไปยังสกุลเงินดิจิตอลของคุณได้ โดยผ่านการซื้อในรูปแบบของการเทรด เพื่อให้ได้สกุลเงินดิจิตอลเข้ามาในบัญชีของคุณ และเมื่อคุณต้องการซื้อของด้วยสกุลเงินดิจิตอล เพียงแค่คุณเลือก Address  หรือเลขบัญชีดิจิตอลปลายทาง ก็สามารถโอนเงินค่าของไปยังปลายทางได้แล้วนั่นเอง

สกุลเงินดิจิตอลเป็นเรื่องใหม่ที่ถูกคิดค้น และพัฒนามาตามเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าในปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตามทุกการลงทุนคือความเสี่ยง ก่อนการตัดสินใจลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้มั่นใจก่อนลงทุน แม้ว่าสกุลเงินดิจิตอลจะไม่ได้รับผลกระทบจากข่าวสารบ้านเมืองโดยตรง แต่มูลค่าของสกุลเงินนี้มีขึ้นและลงไม่แตกต่างกับสกุลเงินที่สามารถจับต้องได้ในปัจจุบัน

 

แมงกะพรุน สัตว์มีพิษประจำท้องทะเล รุนแรง อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้

                “ทะเล” สถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ ยิ่งหน้าร้อนแล้ว ผู้คนยิ่งแห่ไปเที่ยวทะเลกันเป็นจำนวนมาก ไปเล่นน้ำคลายร้อน ทะเลในหลาย ๆ แห่งเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว และอีกหลายแห่งก็มีนักท่องเที่ยวบางตา สาเหตุหนึ่งมาจากความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ และปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งของทะเลคือ “แมงกะพรุน” ที่มีจำนวนมากขึ้นในท้องทะเล

                แมงกะพรุนเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ตัวนิ่มใส รูปร่างคล้ายร่มหรือกระดิ่งคว่ำ มักมีเข็มพิษไว้ป้องกันตัว พบมากในช่วงหน้าฝน ทั้งในทะเลลึกและตื้น แมงกะพรุนถูกแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ แมงกะพรุนกล่อง และแมงกะพรุนไฟ

แมงกะพรุนกล่อง มีลักษณะคล้ายแก้วคว่ำ มี 2 ชนิด แบบมีหลายหนวด แตกแขนงออกมาจากโคนหนวด เมื่อสัมผัสแล้วจะมีอาการปวดรุนแรง 4 – 12 ชั่วโมง มีรอยไหม้ ผิวหนังตาย และอาจจะหมดสติหรือเสียชีวิตได้ แบบมีหนวดเดี่ยว แตกแขนงออกมาจากโคนหนวด เมื่อสัมผัสแล้วจะมีอาการรุนแรงภายใน 5 – 40 นาที มีอาการปวดหัว ปวดหลัง ปวดท้อง คลื่นไส้ เป็นต้น

แมงกะพรุนไฟ รูปร่างคล้ายร่ม เมื่อสัมผัสจะมีอาการปวดแสบปวดร้อน แสบคัน มีรอยไหม้ อาจจะมีไข้หรือช็อก จนหมดสติ รวมถึงอาจเสียชีวิตได้

สาเหตุที่แมงกะพรุนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

                น้ำเสียและน้ำจากการทำเกษตรที่มีปุยเคมี มีธาตุอาหารสูง เป็นอาหารชั้นดีของแมงกะพรุน ทำให้แมงกะพรุนขยายพันธุ์ไปได้อย่างรวดเร็ว

ภาวะโลกร้อนทำให้ระบบนิเวศน์เปลี่ยนไปมาก ทำให้กระบวนการในทะเลเปลี่ยนแปลงไป ทำให้พบแมงกะพรุนเพิ่มขึ้นจำนวนมาก

เต่าทะเลมีน้ำจำนวนน้อยลง จากการจับไปทำอาหาร ทำเครื่องประดับ ร่วมถึงการตายจากปัญหาขยะใต้ท้องทะเล ทำให้ท้องทะเลไม่มีผู้พิทักษ์ คอยกำจัดแมลงกะพรุนที่มีพิษมีภัยต่อผู้เล่นน้ำทะเล

วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อสัมผัสแมงกะพรุน

ถ้าหากถูกแมงกะพรุนต่อยในบริเวณที่สามารถป้องกันพิษไหลได้ เช่น แขน หรือ ขา ควรหาผ้ามัดเหนือแผลเพื่อป้องกันพิษไหล และควรล้างแผลด้วยน้ำส้มสายชู และหากสังเกตเห็นหนวดของแมงกะพรุนข้างอยู่ให้ราดด้วยน้ำส้มสายชูไปรอบ ๆ ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีแล้วค่อยดึงหนวดออก ในกรณีที่ไม่มีน้ำส้มสายชูสามารถล้างด้วยน้ำทะเลแทนได้ และวิธีที่สามารถแก้ได้อีกวิธีหนึ่งคือ นำหญ้าทะเลที่สะอาดมาขยี้กับน้ำส้มสายชูและราดบริเวณที่ถูกต่อย แต่หากไม่แน่ใจเกี่ยวกับหญ้าทะเลสะอาดหรือไม่ และหากอาการไม่ดีขึ้น ควรนำส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลให้คุณหมอหรือผู้เชี่ยวชาญดูแล เนื่องจากพิษของแมงกะพรุนมีความรุนแรงอาจถึงตายได้ หากดูแลไม่ดีหรือดูแลผิดวิธี

สิ่งที่ห้ามทำโดยเด็ดขาดคือ ห้ามใช้น้ำจืดล้างแผลโดยเด็ดขาด ห้ามถูบีบหรือนวดบริเวณที่ถูต่อยหรือบริเวณโดยรอบ ห้ามประคบร้อนและประคบเย็นโดยเด็ดขาด เนื่องจากทั้ง 3 วิธีจะทำให้พิษของแมงกะพรุนกระจายไปยังบริเวณอื่น ๆ สามารถส่งผลร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

ธรรมชาติเปลี่ยนไปสาเหตุหลักมาคนที่เข้าไปรบกวนระบบธรรมชาติ เช่น เดิมเต่าทะเลผู้พิทักษ์ทะเลให้ปลอดแมงกะพรุน แต่เต่าทะเลถูกทำล้ายด้วยน้ำมือของมนุษย์ที่จับไปทำอาหารหรือเครื่องประดับ ผลกระทบทางตรงที่เกิดกับมนุษย์คือแมงกะพรุนที่มีมากขึ้นทำให้ทะเลที่เคยน่าเล่น น่ามอง มีเสน่ห์น่าหลงใหล บัดนี้ถูกเปลี่ยนไปเป็นน่ากลัว และไม่ปลอดภัย เราควรหันมาดูแลรักษาธรรมชาติให้มากขึ้น เพื่อความสมบูรณ์ของธรรมชาติจะได้กลับมาอีกครั้ง

 

ปรากฎการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 กับความรู้ใหม่ที่ชาวกรุงฯ ก็ไม่เคยรู้

ในช่วงต้นปีที่ผ่านมามีปรากฏการณ์ที่ชวนตกใจของชาวกรุงเทพฯ ที่ต่างเฮกันว่า กรุงเทพฯ มีหมอก ประจวบกับช่วงนั้นอากาศของกรุงเทพฯ เย็นลงอีกด้วยด้วย แต่แท้ที่จริงแล้วนักวิชาการได้ออกมาระบุว่า ที่เราเห็นไม่ใช่หมอกแต่อย่างไร แต่เป็นฝุ่นละอองขนาดเล็กต่างหาก ทำให้เราได้รู้จักกับคำศัพท์ใหม่ที่เรียกว่า ฝุ่น PM2.5

PM2.5 คืออะไร

PM หรือ Particulate Matters เป็นค่ามาตรฐานของฝุ่นละอองขนาดเล็ก ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ส่วน 2.5 หมายถึง 2.5 ไมครอนหรือไมโครเมตร แสดงว่า PM2.5 คือฝุ่นละอองขนาดเล็ก ที่มีขนาดเล็กมาก ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางน้อยกว่า 2.5 ไมครอน ไม่สามารถมองได้ด้วยตาเปล่า ถ้าเปรียบให้เห็นภาพคือเส้นผ่านศูนย์กลางของไส้ดินสอประมาณ 500 ไมครอน เส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นผมประมาณ 100 ไมครอน แต่ฝุ่นละอองที่กล่าวถึงมีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอนหรือเล็กกว่าไส้ดินสอ 200 เท่า หรือเล็กกว่าเส้นผม 40 เท่า

ภัยเงียบจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก

โดยปกติแล้วฝุ่นละอองที่มีขนาด 5 ไมครอนขึ้นไป จะถูกขนจมูกกรองไม่ให้สามารถผ่านเข้าไปในร่างกายได้ แต่เนื่องจากฝุ่นละอองชนิด PM2.5 มีขนาดเล็กมาก จนสามารถสู่ร่างกายได้โดยง่าย อีกทั้งยังเป็นพาหะนำสารอันตรายต่าง ๆ เข้าสู่ร่างกายได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นสารแคดเมียม สารปรอท โลหะหนัก ไฮโดรคาร์บอน และสารก่อมะเร็งจำนวนมาก

PM2.5 เกิดจากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ของเครื่องยนต์หรือยานพาหนะที่ใช้งานมานานแล้ว เครื่องจักรสำหรับการก่อสร้าง การเผาป่าหรือเผาวัชพืช การเผาเชื้อเพลิง รวมไปถึงการเผาไหม้ในชีวิตประจำวันต่าง ๆ เช่น การเผาไหม้จากบุหรี่ การเผาไหม้จากการทำอาหาร เป็นต้น

การป้องกันและดูแลตัวเองจาก PM2.5

หากต้องเดินทางไปบริเวณที่มีการก่อสร้าง การจราจรที่หนาแน่น จุดที่เสี่ยงต่อการเจอฝุ่นละอองขนาดเล็ก ที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า เป็นฝุ่นที่ขนจมูกสามารถป้องกันได้หรือไม่ ควรป้องกันด้วยการใส่หน้ากากอนามัยชนิด N95 ที่เป็นหน้ากากอนามัย ที่ได้รับการยอมรับว่าสามารถป้องกันเชื้อโรคได้ดีที่สุด และป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ถึง 0.3 ไมครอน
หากจะบอกให้คนกรุงเทพฯ อยู่แต่ในบ้าน ไม่ออกไปในบริเวณที่มีการจราจรหนาแน่น หรือพื้นที่เสี่ยงที่จะมีฝุ่นละอองขนาดเล็ก เห็นทีว่าจะทำได้ยาก เพราะในกรุงเทพมีแต่พื้นที่ที่ถูกประกาศว่าเป็นพื้นที่พบ PM2.5 จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเขตบางนา วังทองหลาง ริมถนนพระราม 4 เขตปทุมวัน ริมถนนอินทรพิทักษ์ เขตธนบุรี ริมถนนลาดพร้าว เขตวังทองหลาง ริมถนนพญาไท เขตราชเทวี ทุกล้วนแต่เป็นเขตที่ตั้งสถานที่ทำงานของคนกรุงเทพฯ จำนวนมาก ดังนั้นเมื่อพวกเรารู้จักกับเจ้าฝุ่นนี้แล้ว ก็ควรหันมาดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ และสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกัน PM2.5 ที่เป็นพาหะนำสารอันตารายต่าง ๆ เข้าสู่ร่างกายของเรา

เครื่องบิน ทางเลือกการโดยสายที่ปลอดภัย สะดวก รวดเร็ว ทันใจ

                การเดินทางโดยเครื่องบินไปยังสถานที่ต่าง ๆ ย่อมสร้างความสะดวกสบาย เพราะเพียงไม่กี่อึดใจ ทำให้เราสามารถข้ามน้ำ ข้ามทวีปไปยังอีกประเทศหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว มีทั้งอาหาร เครื่องดื่ม รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ คอยอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสา รที่กำลังจะเดินทางไปท่องเที่ยว ไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ ไปทำงาน หรือไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ในต่างแดน หรือในต่างจังหวัด ให้สามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัย

การเดินทางโดยเครื่องบินถือเป็นรูปแบบการเดินทางที่ปลอดภัยที่สุดในทุกรูปแบบ หากเปรียบเทียบกับการเดินทางโดยรถยนต์ การเดินทางโดยรถจักรยานยนต์ การเดินทางทางเรือ เพราะการเดินทางด้วยเครื่องบิน เป็นช่องทางที่ผู้ให้บริการจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ไม่ใช่ใครที่สามารถให้บริการได้ และกว่าที่ผู้โดยสารจะร่วมเดินทางได้ จะต้องผ่านมาตรการรักษาความปลอดภัยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นตรวจสิ่งของสัมภาระ ตรวจของที่พกติดตัวขึ้นเครื่องบิน เพื่อความปลอดภัยที่สูงที่สุดที่สายการบินจะให้บริการแก่ผู้โดยสารทุกคน

และไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถขับเครื่องบินได้ ผู้ที่สามารถขับเครื่องบินได้จะเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญ ที่ได้รับการฝึก อบรม เข้าสอบจนได้ใบรับรองมาแล้วเท่านั้น ดังนั้นจุดนี้จึงเป็นเครื่องรับประกันได้ว่า การเดินทางด้วยเครื่องบิน ปลอดภัยกว่าการเดินทางด้วยยานพาหนะอื่น ๆ เป็นที่สุด

Airlineratings.com เว็บไซต์จัดอันดับสายการบินทั่วโลกที่ ได้จัดอันดับสายการบินที่มีความปลอดภัย ประจำปี 2018 ไว้ดังนี้

AirlineRatings.com ที่คอยจัดอันดับการให้บริการของสายการบินต่าง ๆ ด้วยหลักความปลอดภัยในการบิน การรีวิวจากผู้โดยสาร อายุของสายการบิน ความมีประโยชน์ต่อส่วนร่วม การจัดการสิ่งแวดล้อม เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น และส่งผลกระทบต่อสารการบินนั้น ๆ

Air New Zealand ของนิวซีแลนด์ที่ได้รับการโหวตให้เป็นอันดับ 1 ของสายการบินที่มีความปลอดภัย และเป็นสายการบินที่มีความปลอดภัยในระดับ 7 ดาว ติดต่อกัน 5 ปีซ้อน อีกทั้งยังมีผลประกอบการทางการเงินที่ยอดเยี่ยม มีนวัตกรรมที่ทันสมัยในการอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาย และมีความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม

อันดับ 2 – 10 ได้แก่ Qantas Airways สายการบินประเทศออสเตรเลีย, Singapore Airlines สายการบินประเทศสิงคโปร์, Virgin Australia Airlines สายการบินประเทศออสเตรเลีย, Virgin Atlantic Airways สายการบินประเทศออสเตรเลีย, Etihad Airways สายการบินประเทศอาหรับเอมิเรตส์, All Nippon Airways (ANA) สายการบินประเทศญี่ปุ่น, Korean Air สายการบินประเทศเกาหลีใต้, Cathay Pacific สายการบินประเทศฮ่องกง, Japan Airlines สายการบินประเทศญี่ปุ่น

ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะยังไม่มีสายการบินใดที่ติดร่วมอยู่ในอันดับของสายการบินที่ปลอดภัยที่สุดก็ตาม แต่เชื่อมั่นได้อย่างหนึ่งว่า การเดินทางโดยเครื่องบินของไทยเรานั้น ปลอดภัยกว่าการเดินทางด้วยวิธีอื่น ๆ แน่นอน และสายการบินในประเทศไทยทุกสายการบิน ล้วนแล้วแต่มีนักบินมืออาชีพ ที่ได้รับการฝึกอบรม การสอบปฏิบัติมาเป็นอย่างดี ไม่แพ้ชาติใดในโลก